พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2

ลงทุนอย่างมั่นใจกับพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2

            

                ธนาคารกรุงเทพได้รับคัดเลือกจากกระทรวงการคลังให้ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2 โดยเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม - 13 กันยายน 2556 ในวันทำการที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) และที่เครื่อง ATM (24 ชั่วโมง)

                เนื่องจากพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นนี้เป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) ผู้ซื้อจะต้องลงทะเบียนก่อนการซื้อ ซึ่งธนาคารกรุงเทพเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนได้ทุกวันทำการที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเพื่อซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ 2555 และพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 กับธนาคารกรุงเทพไว้แล้วไม่ต้องลงทะเบียนใหม่สามารถใช้เลขทะเบียนเดิมซื้อพันธบัตรรุ่นนี้ได้

 

สรุปสาระสำคัญ

 

ผู้ออกพันธบัตร:	กระทรวงการคลัง
ชื่อรุ่นพันธบัตร:	พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 2
อายุ:	3 ปี – เป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless)
วงเงินรวมที่เสนอขาย:	ไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
วันครบกำหนดไถ่ถอน:	9 พฤษภาคม 2559
อัตราผลตอบแทนที่ ผู้ลงทุนได้รับ:	3 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 3.50 ต่อปี
การจ่ายดอกเบี้ย:	ปีละ 2 งวด คือในวันที่ 9 พฤษภาคม และ 9 พฤศจิกายน ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนด การคำนวณดอกเบี้ยคำนวณจากมูลค่าของพันธบัตร โดยใช้หลักเกณฑ์หนึ่งปีมี 365 วัน และนับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง หากวันครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เลื่อนจ่ายในวันทำการถัดไปโดยไม่คำนวณดอกเบี้ยเพิ่มให้ เว้นแต่ดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะคำนวณดอกเบี้ยเพิ่มตามวันที่เลื่อนออกไป
วันที่จำหน่าย และ วงเงินซื้อขั้นต่ำ-ขั้นสูง:	9 พฤษภาคม - 13 กันยายน 2556 วงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท (1 หน่วย) - วงเงินซื้อขั้นสูง 2,000,000 บาท (2,000 หน่วย) ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ที่เข้าซื้อต่อราย แต่วงเงินรวมที่ซื้อไม่เกินรายละ 2,000,000 บาท ต่อ 1 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย
ราคาจำหน่าย:	ราคาหน่วยละ 1,000 บาท และทวีคูณของ 1,000 บาท
วิธีการจัดจำหน่าย:	กรณีซื้อผ่านเคาน์เตอร์สาขาธนาคารกรุงเทพ (ยกเว้นสาขาไมโคร) ระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม - 13 กันยายน 2556 เริ่ม 8.30 น. ถึง 15.00 น. ของวันทำการ กรณีซื้อผ่านเครื่อง ATMเริ่ม 8.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ถึง 15.00 น. ของวันที่ 13 กันยายน 2556
วันที่ลงในพันธบัตร (วันที่เริ่มคิดดอกเบี้ย):	กรณีซื้อผ่านเคาน์เตอร์ กรณีชำระเงินด้วยเงินสดหรือหักบัญชีเงินฝาก เริ่มคิดดอกเบี้ย ณ วันที่ซื้อพันธบัตร ยกเว้นกรณีที่ชำระหลังเวลา 15.00 น. ของวันทำการหรือซื้อในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร ดอกเบี้ยจะเริ่มนับในวันทำการถัดไป กรณีชำระด้วยเช็ค หากชำระไม่เกินเวลาปิดเคลียริ่งเช็คของแต่ละสาขา ดอกเบี้ยจะเริ่มนับในวันทำการถัดไป กรณีซื้อผ่านเครื่อง ATMเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำธุรกรรม ยกเว้นกรณีซื้อหลังเวลา 15.00 น. ของ วันทำการ หรือซื้อในวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร ดอกเบี้ยจะเริ่มนับตั้งแต่วันทำการถัดไป ทั้งนี้ วงเงินซื้อสูงสุดผ่านเครื่อง ATM จะต้องไม่เกินยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากและไม่เกินวงเงินซื้อขั้นสูงที่กระทรวง การคลังกำหนด
การลงทะเบียนและฝากหลักทรัพย์:	ผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์แบบไร้ใบตราสาร (Scripless) รายใหม่ที่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อนการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นนี้ ผู้จองซื้อจะสามารถลงทะเบียนได้ทุกวันทำการที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) เพื่อฝากพันธบัตรไว้กับธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารกรุงเทพจะนำฝากพันธบัตรของผู้ถือกรรมสิทธิ์ภายใต้บัญชีฝากหลักทรัพย์ของธนาคารเพื่อลูกค้า ที่บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ ชื่อเจ้าของหลักทรัพย์ที่ลงทะเบียนจะต้องตรงกันกับชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากเพื่อรับโอนดอกเบี้ยและต้นเงิน กรณีผู้ซื้อประสงค์ซื้อพันธบัตรผ่านเครื่อง ATM ผู้ซื้อจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอมีเลขที่ผู้ถือพันธบัตรพร้อมทั้งระบุเลขที่บัญชีเงินฝากที่ใช้บริการผ่านบัตร ATM/บัตรเดบิต บีเฟิสต์ หากผู้จองซื้อทำบัตรเดบิต บีเฟิสต์ใหม่ เพื่อซื้อพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร(Scripless) ธนาคารกรุงเทพจะยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีปีแรกให้กับผู้จองซื้อ* *เงื่อนไข ธนาคารกรุงเทพยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ปีแรก ของบัตรเดบิต บีเฟิสต์ เพื่อใช้ซื้อพันธบัตรแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) เพียงใบแรกใบเดียวเท่านั้น กรณีผู้ซื้อไม่มีการทำรายการซื้อพันธบัตรผ่านเครื่อง ATM โดยใช้บัตรเดบิต บีเฟิสต์ ที่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ปีแรก ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ขอออกบัตรเดบิต บีเฟิสต์ ธนาคารกรุงเทพจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีปีแรก ย้อนหลังโดยหักเงินจากบัญชีเงินฝากที่ระบุไว้ในบัตรดังกล่าว
วิธีการจัดสรร:	ผู้จองซื้อที่มี "คำเสนอขอซื้อพันธบัตร" ณ สาขาธนาคารกรุงเทพ หรือทำรายการซื้อผ่านเครื่อง ATM และชำระเงินสมบูรณ์ก่อน จะได้รับการจัดสรรก่อน
ผู้มีสิทธิ์ซื้อ:	บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอื่นใดที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงทางกำไร
ผู้ไม่มีสิทธิ์ซื้อ:	ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคลที่บริหารโดยสถาบันการเงิน กองทุนรวม คณะบุคคล บรรษัท สำนักงานประกันสังคม รัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้าน หน่วยงานธุรกิจ นิติบุคคลที่แสวงหากำไร นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร โรงพยาบาลเอกชน และสถานศึกษาเอกชน  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือบริการบัวหลวงโฟน โทร.1333     การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลง ทุน http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/PersonalBanking/BuildYourWealth/InvestmentsAndDeposits/Bonds/Pages/Bonds2556.aspx