วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ซีพีทุ่ม4หมื่นล้าน ลุยลั่วหยาง ธ.กรุงเทพชี้ธุรกรรมในจีนฉลุย



เซี่ยงไฮ้ * ซีพีมั่นใจเศรษฐกิจจีนยังแกร่ง แม้รัฐบาลกดจีดีพี ล่าสุดควักเงินเกือบ 40,000 ล้านบาท ผุดเมกะโปรเจ็กต์ที่ลั่วหยาง พร้อมลุยเข็นรถยนต์เอ็มจีขายในไทย ขณะที่ธนาคารกรุงเทพในจีนลุ้นสินเชื่อโต 10%



นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า ในขณะนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจในสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้หลายฝ่ายมองว่ามีการชะลอตัวเหลือประมาณ 7% จากเดิมที่โตเฉลี่ยปีละ 10% ซึ่งการลดลงนั้นเกิดมาจากนโยบายของรัฐบาลเอง แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังมีหัวเมืองชั้นรองที่ยังสามารถพัฒนาเศรษฐกิจอีกมาก อาทิ เมืองในโซนภาคกลางและภาคตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ซีพียังถือว่าจีนเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลจีนสร้างระบบสาธารณูปโภครองรับการเติบโตแล้ว ทั้งถนนซูเปอร์ไฮเวย์ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเมืองใหญ่ ท่าเรือ และสนามบิน ล่าสุดซีพีกำลังจะลงทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในเมืองลั่วหยาง วงเงิน 35,000- 40,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการก่อสร้างศูนย์กลางค้า ซูเปอร์แบรนด์มอลล์ อาคารสำนักงานให้เช่า คอนโด มิเนียม และศูนย์ราชการ บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันก็ยังคงรุกธุรกิจการเกษตร ซึ่งเป็นรากฐานเดิมของซีพีต่อไป เพราะเชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในจีนได้อีก 5-10 ปี

              ด้านนายนพดล เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม (จีน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนสนับสนุนให้นักธุรกิจจีนเข้าไปลงทุนในต่างประ เทศมากขึ้น ซึ่งซีพีได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ (SAIC Automotive In Co.LTD) ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ "เอ็มจี" ของอังกฤษ ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศไทย วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท โดยในเฟสแรกจะผลิตประมาณ 50,000 คันต่อปี เพื่อขายในประเทศไทย ช่วงต้นปี 2557 รวม 3 รุ่นคือ MG6 MG5 และ MG 3 และจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 200,000 คัน เพื่อเป็นฐานการส่งออกรถยนต์เอ็มจีไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

             


        ด้านนายสุวัชชัย ทรงวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงเทพ (จีน) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจจีน (จีดีพี) มีอัตราการเติบโต 7.6-7.8% ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลจีนคาดการณ์ไว้ที่ 7.5% เนื่องจากในประเทศยังมีกำลังซื้อ อย่างไรก็ตาม ธนา คารได้รับกลยุทธ์การบริหารงานให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจของจีน โดยปีนี้คาดว่าสินเชื่อของธนาคารจะมีอัตราการเติบโต 8-10% หรือมีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และอัตรากำไรประมาณ 140 ล้านหยวน ซึ่งมีระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
สำหรับการทำธุรกิจในจีนมีการแข่งขันสูง โดยธนาคารต่างประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจในจีนมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1.7% ของส่วนแบ่งตลาดธนาคารจีนทั้งหมด ประมาณ 10 ล้านล้านหยวน อีกทั้งธนาคารกลางของจีนมีนโยบายกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้มีข้อจำกัดการระดมทุนในจีน แต่ธนาคารกรุงเทพ (จีน) จดทะเบียนในท้องถิ่นทำให้ทำธุรกรรมเงินหยวนได้

"ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีนักลงทุนจีนสนใจเข้าไปลงทุนในไทยมากขึ้น โดยขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนจีนขนาดใหญ่ๆ ที่เป็นลูกค้าธนาคารเข้าไปลงทุนในไทยแล้วประมาณ 20-30 ราย" นายสุวัชชัยกล่าว.


ข่าววันที่ 18 กันยายน 2556

1 ความคิดเห็น:

  1. I live in UK London and i am a happy woman today? and i
    told my self that any lender that rescue my
    family from our poor situation, i will refer
    any person that is looking for loan to him,
    he gave me happiness to me and my family, i
    was in need of a loan of $250,000.00 to
    start my life all over as i am a single
    mother with 3 kids I met this honest and GOD
    fearing man loan lender that help me with a
    loan of $250,000.00 U.S. Dollar, he is a GOD
    fearing man, if you are in need of loan and
    you will pay back the loan please contact
    Mr. Anthony Mitchell
    via EMAIL : applicantonline3@gmail.com

    ตอบลบ