วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตลท.แนะระวังเล่นหุ้นช่วงการเมืองวุ่น-เชื่อผันผวนช่วงสั้น

 
ตลท.เตือนลงทุนรอบคอบในหุ้นพื้นฐานเป็นช่วงภาวะการเมืองกดดัน เพราะผลประกอบการบจ.ยังดี นักวิเคราะห์ เชื่อมีผลแค่ระยะสั้น  ด้าน"ทนง" ยันไม่ห่วงการเมืองหากชุมนุมในกรอบกฎหมาย ส่วนโฆสิตมั่นใจผ่านพ้นปัญหาไปได้
 
         
      นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนท่ามกลางปัจจัยทางการเมือง หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 3 เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1-10 ส.ค.นี้ เพื่อดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้นขอให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณการลงทุน โดยเน้นพื้นฐานเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าปัจจัยทางการเมืองมีผลต่อการลงทุนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวทิศทางตลาดหุ้นต้องสะท้อนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก
 
          ขณะที่ อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า นักลงทุนค่อนข้างกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการชุมนุมไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรง แต่อาจจะยืดเยื้อจนถึงวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งน่าจะส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงจนกว่าการเมืองจะชัดเจน สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำชะลอการลงทุนจนกว่าการเมืองจะชัดเจน
 
           ด้าน นายกษมพนธ์ เหมนิลรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส และผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ปัจจัยทางการเมือง เป็นผลกระทบเชิงลบทางจิตวิทยาในระยะสั้น แต่เชื่อว่าสถานการณ์ก็จะผ่านไปได้ด้วยดี   ยังคงเป้าดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ที่ 1,650-1,680 จุด เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดีที่ 4-4.5%
 
          นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย ในขณะนี้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นยังอยู่ในกรอบของกฎหมายและยังอยู่ในกลไกของสภาผู้แทนราษฎรขณะที่กองทัพ ยังไม่มีท่าทีออกมาให้การสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมใดๆ ในการชุมนุมครั้งนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่า ไม่น่าเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นในการชุมนุม นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าประเทศไทย จะไม่สูญเสียโอกาสในการเป็นศูนย์กลางการผลิต ในภูมิภาคอาเซียน เพราะปัญหาการเมืองของไทยที่ผ่านมา ยังไม่เคยเป็นปัจจัยในการทำลายธุรกิจของประเทศไทย
       
          นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เชื่อว่า ประเทศไทยจะสามารถผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์อย่างลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งมองว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้จะโตได้ใกล้เคียง 4%
 
 
 
ข่าววันที่ 2 สิงหาคม 2556
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น